Menu Close

สำนักวิจัยและบริการวิชาการ สทป. จับมือ 20 สถานประกอบการ ร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการศึกษา

สำนักวิจัยและบริการวิชาการ สทป. จับมือ 20 สถานประกอบการ ร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการศึกษา

เมื่อวันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 13.30 น. สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยสำนักวิจัยและบริการวิชาการ (สวบ.) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ วิจัยและสร้างนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2565 กับ 20 สถานประกอบการ ได้แก่ บริษัท ไอเซ็ม จำกัด, บริษัท มิตรใหม่ฟาร์ม จำกัด, บริษัท เอต้าอินเตอร์คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด, บริษัท ไฮเทรด จำกัด, บริษัท เอส เอ็น เอ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บริษัท พาวเวอร์ทีมเน็ตเวิร์ค จำกัด, บริษัท ช.ฐิติชัย จำกัด, บริษัท พิมธา จำกัด, บริษัท โดม คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท พลาสติก โพลีเพล็กซ์ จำกัด, บริษัท หัวปีท้ายปี จำกัด, บริษัท สมาร์ตไอโอทีเทคโนโลยี่ จำกัด, บริษัท นิวนางฟ้าอินเตอร์ จำกัด, บริษัท ธนธรอินเตอร์ จำกัด, บริษัท เออีซีโปรซูเมอร์เน็ต เวิร์ค จำกัด, บริษัท ไรซ์อัพ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ปูนปั้นนครชัยศรีแอนด์จีอาร์ซี จำกัด, บริษัท ไอแอม ดี ดิจิตอล เซอร์วิส จำกัด, istyle global network co.,Ltd และ UltraFight Gear Co.,Ltd. ณ ห้องประชุมสวัสดิวันวิศิษฎ์ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ

โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ รักษาราชการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เป็นประธานการลงนาม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิฑูรย์ อบรม ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิชาการ(ประธานดำเนินงาน) คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมในพิธี ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก นายถาวร ชลัษเฐียร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายอรรถการ ตฤษณารังสี รองประธานสภาหอการค้าไทย ให้เกียรติเป็นพยานผู้ทรงคุณวุฒิในพิธีลงนามดังกล่าว

สำหรับการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน ทั้งด้านบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร รวมถึงงานวิจัย นวัตกรรมและองค์ความรู้ ฯลฯ อีกทั้ง เป็นการดำเนินภารกิจหลักการจัดการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างร่วมมือกับภาคเอกชนทางการจัดการศึกษา ซึ่งแต่ละหน่วยงานล้วนมีเอกลักษณ์และความแตกต่าง เมื่อได้มีการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและองค์ความรู้ร่วมกัน จะสามารถก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการการศึกษา อันเป็นการยกระดับ พัฒนาการศึกษาและงานวิจัยได้ในอนาคต

ที่มา : ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสิ่งพิมพ์