รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ผศ.วีนัส ทัดเนียม รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา และ น.ส.จิราพร ต่ำว่าองค์ รักษาการหัวหน้าฝ่ายวินัยนักศึกษาได้เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อยกระดับมาตรการรับน้องใหม่และความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา ณ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 – 13.00 น. ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร ชั้น 3 อาคารอุดมศึกษา 1 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ (ถนนศรีอยุธยา) โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ นางสาวศุภมาส กล่าวย้ำให้ทุกมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา ได้กำหนดมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องและให้เป็นไปตามประกาศกระทรวง อว. เรื่อง การจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา แบ่งเป็น 4 มาตรการ ได้แก่ การป้องกัน การเฝ้าระวัง ความ รับผิดชอบ และการลงโทษ โดยมีแนวทางดังนี้ มาตรการที่ 1 ด้านการป้องกัน โดย
(1) ให้สถาบันอุดมศึกษาออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับหรือหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายกระทรวง อว. โดยกำหนดการพิจารณาอนุญาต การรับผิดชอบ การกำกับ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม รูปแบบแนวทาง รวมทั้งบทลงโทษกรณีฝ่าฝืน ตามความเหมาะสม
(2) ให้สถาบันอุดมศึกษามีมาตรการในการป้องกันการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจของนิสิตนักศึกษา อาทิ การควบคุมการเข้าออกในพื้นที่ การติดตั้งกล้องวงจรปิด
(3) รุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมจะต้องได้รับการคัดเลือก มีการเตรียมความพร้อม พัฒนาทักษะ จิตสำนึกก่อนการจัดกิจกรรม และจะต้องเสนอโครงการจัดกิจกรรมเป็นลายลักษณ์อักษร และจัดกิจกรรมได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว
(4) ให้สถาบันอุดมศึกษา เปิดเผยรูปแบบกิจกรรม ระเบียบข้อบังคับ กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจกับนิสิตนักศึกษา บุคลากร ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปให้เข้าใจวัตถุประสงค์ นโยบายและมาตรการ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีต่อการจัดกิจกรรม ตลอดจนร่วมตรวจสอบการจัดกิจกรรมได้
(5) ก่อนจัดกิจกรรมต้องแจ้งรายละเอียดของกิจกรรมให้น้องใหม่ทราบ ซึ่งน้องใหม่สามารถพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมได้ตามความสมัครใจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้ามาสังเกตการณ์ได้
(6) ให้สถาบันอุดมศึกษามีการประเมินผล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์มีการยกย่องชมเชยนิสิตนักศึกษาที่มีการจัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน รมว.อว. กล่าวต่อว่า มาตรการที่ 2 ด้านการเฝ้าระวัง โดย
(7) ให้สถาบันอุดมศึกษาเฝ้าระวังช่วงการจัดกิจกรรมโดยให้มีช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างนักศึกษา สื่อมวลชน ผู้ปกครอง กับ สถาบันอุดมศึกษา
(8)ให้สถาบันอุดมศึกษาเฝ้าระวังนักศึกษารุ่นพี่กลุ่มเสี่ยง ที่อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม
(9) ให้สถาบันอุดมศึกษา ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อตรวจตราเป็นประจำ หรือตรวจค้นภายในสถาบันอุดมศึกษาตามความเหมาะสม
(10) หากมีกรณีการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจของนิสิต นักศึกษา ให้สถาบันอุดมศึกษารายงานสำนักงานปลัดกระทรวง อว. อย่างทันท่วงที มาตรการที่ 3 ด้านความรับผิดชอบ โดย
(11) ให้ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาแต่ละสถาบัน ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการตามนโยบายและมาตรการข้างต้นอย่างเคร่งครัด กรณี เกิดการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่ก่อให้เกิดควาเสียหายต่อร่างกายและจิตใจของนิสิต นักศึกษา ให้สถาบันอุดมศึกษาเร่งสร้างความเข้าใจ หรือออกแถลงการณ์กับสังคมให้รับทราบข้อเท็จจริง แนวทางการแก้ปัญหา และการเยียวยา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ทั้งนี้ หากเกิดความรุนแรงและพบว่าเป็นความบกพร่องของสถาบันอุดมศึกษา ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาต้องมีส่วนรับผิดชอบในความบกพร่องดังกล่าว และมาตรการที่ 4 ด้านการลงโทษ โดย
(12) ให้ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา พิจารณาลงโทษตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของสถาบัน รวมถึงดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง เด็ดขาด และรวดเร็วกับนิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หลักความเสมอภาค และกฎหมาย
“กระทรวง อว. ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับประกาศ เรื่อง การจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษาให้มหาวิทยาลัยทราบ และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในทุกปี โดยขอให้กิจกรรมที่จัดต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพ และหลักความเสมอภาค ไม่มีความรุนแรง และห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งทางร่างกายและจิตใจ ต้องไม่จัดนอกสถานที่และต้องเปิดเผยได้ เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษา และต้องอยู่ในความดูแลรับผิดชอบร่วมกันของผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษารุ่นพี่ โดยกิจกรรมที่จัดให้มีลักษณะสร้างสรรค์ สร้างความอบอุ่นให้รุ่นน้อง และไม่ขัดต่อระเบียบสถาบัน กฎหมาย และประเพณีอันดีงาม”
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวเน้นย้ำถึงมาตรการการป้องกันความรุนแรง แบบ 3ป. 1 พ. ได้แก่
1.การวางมาตราการป้องกันระวังเหตุ โดยการติดระบบกล้องวงจรปิดโดยรอบสถาบันและมีการตรวจสอบตลอดเวลา
2.การวางมาตราการป้องปราม โดยมีการเน้นย้ำมาตราการทางวินัยนักศึกษากับผู้แทนและตัวนักศึกษาอย่างสม่ำเสมอ การให้ความร่วมมือและขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ
3.การปรับทัศนคติ (Mindset) เน้นการเข้าใจเข้าถึง และรับฟังนักศึกษา เหมือนพ่อแม่ที่เข้าใจลูก เน้นหลักการทางพุทธศาสนา คือพรหมวิหาร
4 เข้ามาใช้ มีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เน้นการมีงานทำก่อนเข้าเรียน ตามแนวนโยบายปทุมวันโมเดล (PATHUMWAN MODEL) พร้อมทั้งเชื่อมโยงนโยบาย ของ กระทรวง อว.ที่ว่า เรียนดี มีความสุขและมีรายได้ระหว่างเรียน ทั้งนี้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน อยู่ในกลุ่ม 5 ของการผลิตนักศึกษา โดยเน้นกลุ่มผลิตและพัฒนาบุคลากรวิชาชีพและสาขาจำเพาะ
ข้อมูล/ภาพ : หัวหน้าฝ่ายวินัยนักศึกษา กองพัฒนานักศึกษา สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน/กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงานปลัด อว. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม